วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557
คณะผู้จัดทำ
คณะผู้จัดทำ
1.นางสาวจินดารัตน์ ลุนสาร เลขที่ 3
2.นางสาวปรียานุช ศาลาทอง เลขที่ 13
3.นายศุรวุธ จักษุดำ เลขที่ 21
4.นางสาววิไลวรรณ โสภะบุญ เลขที่ 32
5.นายเกรียงไกร แปลงมาลย์ เลขที่ 36
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/ 11
วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557
ผู้บริหารเทศบาลเสนางคนิคมพร้อมด้วยสมาชิกสภาเทศบาล เจ้าหน้าที่เทศบาลและฝ่ายปกครองร่วมกันแจกพันธุ์ปลาให้กับพี่น้องในชุมชนเพื่อเป็นการส่งเสริมการขยายพร้อมทั้งแพร่พันธุ์ปลาและเป็นการร่วมทำบุญถวายในวันแม่ครับ
ผู้บริหารเทศบาลเสนางคนิคมพร้อมด้วยสมาชิกสภา
เทศบาล
เจ้าหน้าที่เทศบาลและฝ่ายปกครองร่วมกันแจกพันธุ์ปลาให้กับพี่น้องในชุมชน
เพื่อเป็นการส่งเสริมการขยายพร้อมทั้งแพร่พันธุ์ปลาและเป็นการร่วมทำบุญถวาย
ในวันแม่ครับ
เพราะการสื่อสารในทุกวันนี้ทำให้คนเราได้รู้จักกับคนทั่วใปได้ง่าย จนบางครั้งเรามัวแต่สนใจกับการสสื่อสารมากเกินไปจนทิ้งครอบครัวทั้งคนหวังดีๆที่อยู่ใกล้ๆเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆคนอาจจะมีเพื่อนที่รู้จักแต่ในเครื่องโทรศัพท์แต่ไม่รู้ว่าตัวจริงอยู่ที่ไหนเป็นคนยังไงและเมื่อมองกลับไปที่ครอบครัวและคนใกล้ชิดและคนที่เคยห่วงใยกลับค่อยๆหายไปจากเรา
เพราะการสื่อสารในทุกวันนี้ทำให้คนเราได้รู้จักกับคนทั่วใปได้ง่าย
จนบางครั้งเรามัวแต่สนใจกับการส สื่อสารมากเกินไปจนทิ้งครอบครัวทั้งคนหวังดีๆที่อยู่ใกล้ๆเมื่อเ วลาผ่านไปหลายๆคนอาจจะมีเพื่อนที่รู้จักแต่ในเครื่องโทรศัพท์แต่ไม่รู้ว่าตัวจริงอยู่ที่ไหนเป็ นคนยังไงและเมื่อมองกลับไปที่คร อบครัวและคนใกล้ชิดและคนที่เคยห่วงใยกลับค่อยๆหายไปจากเรา
จนบางครั้งเรามัวแต่สนใจกับการส
นายพุทธา นารีวงศ์
ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่..ขออวยพรให้ทุกๆท่านจงสุข
และสมหวังตลอดไป..ทั้งตัวกระผมตลอดจนเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานเทศบาลเสนางคนิคม
ทุกๆคน..ขอให้คำมั่นสัญญาว่าจะทุ่มเททุกแรงกายและความสามารถเพื่อพัฒนาใน
ทุกๆพื่นที่และหน่วยงานเพื่อนำพาความสุขมามอบแด่พี่น้องในเทศบาลเสนางคนิคม
ทุกๆท่านครับ...
กลุ่มผลิตผ้ามันหมี่และผ้าฝ้าย
กลุ่มผลิตผ้ามันหมี่และผ้าฝ้าย หมู่ที่ 1 มีสมาชิกอยู่ จำนวน 20 คน
2.กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์หมู่ที่ 4และหมู่ที่ 11 มีสมาชิก จำนวน 20 คน
ที่ผ่านมากลุ่มนี้ จัดสรรเงินงบประมาณช่วยเหลือไปแล้ว 50,000 บาท
3.กลุ่มเลี้ยงกบ หมู่ที่ 3 มีสมาชิกอยู่ 30 คน 4.กลุ่มผลิตหมอนสม็อก
มีสมาชิก 30 คน และ5.กลุ่มทอผ้าไหมลายสายฝน มีสมาชิกอยู่ 50 คน
ซึ่งกลุ่มทอผ้าไหม สร้างชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะผ้าไหมลายสายฝน
ไม่มีที่ไหนผลิตมาก่อน เป็นแห่งแรกและเจ้าแรกของประเทศ
จนถูกคัดเลือกเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ดีเด่น ประเภทผ้า
ของจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี 2554และ55 รวม 2 ปีซ้อน
ทั้งนี้ก็ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่งให้กับทุกกลุ่มหมุนเวียนกันไป
เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่เกษตรกรและชุมชน
วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557
กลุ่มผลิตผ้ามัดหมี่และผ้าฝ้าย ผลงานดีเด่นระดับจังหวัดอำนาจเจริญ
นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมกลุ่มอาชีพอีก 5 กลุ่ม เช่น
1.กลุ่มผลิตผ้ามันหมี่และผ้าฝ้าย หมู่ที่ 1 มีสมาชิกอยู่ จำนวน 20 คน
2.กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์หมู่ที่ 4และหมู่ที่ 11 มีสมาชิก จำนวน 20 คน
ที่ผ่านมากลุ่มนี้ จัดสรรเงินงบประมาณช่วยเหลือไปแล้ว 50,000 บาท
3.กลุ่มเลี้ยงกบ หมู่ที่ 3 มีสมาชิกอยู่ 30 คน 4.กลุ่มผลิตหมอนสม็อก
มีสมาชิก 30 คน และ5.กลุ่มทอผ้าไหมลายสายฝน มีสมาชิกอยู่ 50 คน
ซึ่งกลุ่มทอผ้าไหม สร้างชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะผ้าไหมลายสายฝน
ไม่มีที่ไหนผลิตมาก่อน เป็นแห่งแรกและเจ้าแรกของประเทศ
จนถูกคัดเลือกเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ดีเด่น ประเภทผ้า
ของจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี 2554และ55 รวม 2 ปีซ้อน
ทั้งนี้ก็ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่งให้กับทุกกลุ่มหมุนเวียนกันไป
เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่เกษตรกรและชุมชน
นายพุทธา นารีวงศ์
นายพุทธา นารีวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลเสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม
จ.อำนาจเจริญ กล่าวว่า ได้รับความไว้วางใจจากพ่อ แม่ พี่ น้อง
ชาวเสนางคนิคม เลือกให้เป็นตัวแทนบริหารท้องถิ่น
ในตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลเสนางคนิคม เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2554
นับเป็นเวลา 1 ปีกับ 8 เดือน ที่เข้ามากุมบังเหียนในเทศบาลตำบลเสนางคนิคม
ก็ทำงานด้วยความสะดวกราบรื่นดีมาก จะมีปัญหาก็งบประมาณที่มีจำนวนจำกัด
ไม่สามารถดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ หรือตามนโยบายที่เคยหาเสียวไว้กับ
พ่อ แม่ พี่ น้อง ชาวเทศบาลตำบลเสนางคนิคม ทว่า
ก็ได้จัดสรรงบประมาณในส่วนที่เดือดร้อนมากเป็นอันดับแรก เช่น ที่ผ่านมา
ชาวเสนางคนิคม ประสบปัญหาภัยแล้งกันมาก น้ำดื่ม น้ำใช้ไม่เพียงพอ
จึงต้องมีการก่อสร้างประปาในเขตเทศบาลเสนางคนิคมเพิ่มขึ้นอีก 1 จุด
จากเดิมมีอยู่ 2 จุดรวมเป็น 3 จุด ก็เชื่อว่า ชุมชน จำนวน 8 ชุมชน ประชากร
กว่า 5,000 คน ในเขตเทศบาลเสนางคนิคม จะมีน้ำใช้ตลอดปี
สำหรับแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปามีอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ห้วยหินซับ ,ห้วยม่วงและซับพีเวอร์ ซึ่งน้ำดิบทั้ง 3 แห่ง มีน้ำตลอดทั้งปี แต่ก็ต้องใช้เฉพาะผลิตน้ำประปาเท่านั้น หากปล่อยใช้เพื่อการเกษตร จะไม่สามารถใช้ได้ถึงฤดูฝน เนื่องจากทั้ง 3 แห่ง ใช้กักเก็บน้ำฝนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมกลุ่มอาชีพอีก 5 กลุ่ม เช่น 1.กลุ่มผลิตผ้ามันหมี่และผ้าฝ้าย หมู่ที่ 1 มีสมาชิกอยู่ จำนวน 20 คน 2.กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์หมู่ที่ 4และหมู่ที่ 11 มีสมาชิก จำนวน 20 คน ที่ผ่านมากลุ่มนี้ จัดสรรเงินงบประมาณช่วยเหลือไปแล้ว 50,000 บาท 3.กลุ่มเลี้ยงกบ หมู่ที่ 3 มีสมาชิกอยู่ 30 คน 4.กลุ่มผลิตหมอนสม็อก มีสมาชิก 30 คน และ5.กลุ่มทอผ้าไหมลายสายฝน มีสมาชิกอยู่ 50 คน ซึ่งกลุ่มทอผ้าไหม สร้างชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะผ้าไหมลายสายฝน ไม่มีที่ไหนผลิตมาก่อน เป็นแห่งแรกและเจ้าแรกของประเทศ จนถูกคัดเลือกเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ดีเด่น ประเภทผ้า ของจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี 2554และ55 รวม 2 ปีซ้อน ทั้งนี้ก็ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่งให้กับทุกกลุ่มหมุนเวียนกันไป เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่เกษตรกรและชุมชน
ส่วนการส่งเสริมอนุรักษ์งานบุญประจำปี หรืองานประเพณีโบราณ ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ที่ต้องจัดขึ้นทุกปี เรียกว่า ฮีตสิบสอง มีงานบุญทั้ง 12 เดือน ก็ได้มีการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนเป็นประจำทุกปี ไม่ว่าจะงานประเพณีบุญบั้งไฟ หรือ งานประเพณีสงกรานต์ เป็นต้น
นายพุทธา นารีวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลเสนางคนิคม กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเป็นลูกชาวนา แต่กำเนิด เกิดมาก็อยู่กับท้องนา ท้องไร่แล้ว จึงมีความผู้พันธุ์กับเกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวเป็นอย่างมาก จึงได้ส่งเสริมรณรงค์เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ให้มีการปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารเคมี อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้(56) ต.เสนคางคนิคม ประกาศเป็นตำบลปลูกข้าวอินทรีย์ทั 100 % ทั้งตำบล ถือว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
พุทธา นารีวงศ์ นายกเล็กลูกชาวนา เท้าติดดิน ถึงแม้จะมีงานเข้ามามาก ถ้าว่างเมื่อไหร่ ก็จะไปช่วย พ่อ แม่พี่ น้อง ชาวนา ปักดำนา เป็นประจำ พอถึงหน้าเกี่ยวข้าว ก็จะไปช่วยเกี่ยวข้าว จนแล้วเสร็จ จึงถูกเรียกว่า นายกชาวนา ก็คงไม่ใช่เรื่อแปลก ที่จะอยู่ในใจของชาวเสนางคนิคมไปอีกนาน...
สำหรับแหล่งน้ำดิบที่ใช้ผลิตประปามีอยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ห้วยหินซับ ,ห้วยม่วงและซับพีเวอร์ ซึ่งน้ำดิบทั้ง 3 แห่ง มีน้ำตลอดทั้งปี แต่ก็ต้องใช้เฉพาะผลิตน้ำประปาเท่านั้น หากปล่อยใช้เพื่อการเกษตร จะไม่สามารถใช้ได้ถึงฤดูฝน เนื่องจากทั้ง 3 แห่ง ใช้กักเก็บน้ำฝนเท่านั้น
นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมกลุ่มอาชีพอีก 5 กลุ่ม เช่น 1.กลุ่มผลิตผ้ามันหมี่และผ้าฝ้าย หมู่ที่ 1 มีสมาชิกอยู่ จำนวน 20 คน 2.กลุ่มผลิตปุ๋ยอินทรีย์หมู่ที่ 4และหมู่ที่ 11 มีสมาชิก จำนวน 20 คน ที่ผ่านมากลุ่มนี้ จัดสรรเงินงบประมาณช่วยเหลือไปแล้ว 50,000 บาท 3.กลุ่มเลี้ยงกบ หมู่ที่ 3 มีสมาชิกอยู่ 30 คน 4.กลุ่มผลิตหมอนสม็อก มีสมาชิก 30 คน และ5.กลุ่มทอผ้าไหมลายสายฝน มีสมาชิกอยู่ 50 คน ซึ่งกลุ่มทอผ้าไหม สร้างชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะผ้าไหมลายสายฝน ไม่มีที่ไหนผลิตมาก่อน เป็นแห่งแรกและเจ้าแรกของประเทศ จนถูกคัดเลือกเป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ดีเด่น ประเภทผ้า ของจังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อปี 2554และ55 รวม 2 ปีซ้อน ทั้งนี้ก็ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่งให้กับทุกกลุ่มหมุนเวียนกันไป เพื่อเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้แก่เกษตรกรและชุมชน
ส่วนการส่งเสริมอนุรักษ์งานบุญประจำปี หรืองานประเพณีโบราณ ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ที่ต้องจัดขึ้นทุกปี เรียกว่า ฮีตสิบสอง มีงานบุญทั้ง 12 เดือน ก็ได้มีการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนเป็นประจำทุกปี ไม่ว่าจะงานประเพณีบุญบั้งไฟ หรือ งานประเพณีสงกรานต์ เป็นต้น
นายพุทธา นารีวงศ์ นายกเทศมนตรีตำบลเสนางคนิคม กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนเป็นลูกชาวนา แต่กำเนิด เกิดมาก็อยู่กับท้องนา ท้องไร่แล้ว จึงมีความผู้พันธุ์กับเกษตรกรผู้ทำนาปลูกข้าวเป็นอย่างมาก จึงได้ส่งเสริมรณรงค์เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ให้มีการปลูกข้าวอินทรีย์ปลอดสารเคมี อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะฤดูกาลเพาะปลูกปีนี้(56) ต.เสนคางคนิคม ประกาศเป็นตำบลปลูกข้าวอินทรีย์ทั 100 % ทั้งตำบล ถือว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
พุทธา นารีวงศ์ นายกเล็กลูกชาวนา เท้าติดดิน ถึงแม้จะมีงานเข้ามามาก ถ้าว่างเมื่อไหร่ ก็จะไปช่วย พ่อ แม่พี่ น้อง ชาวนา ปักดำนา เป็นประจำ พอถึงหน้าเกี่ยวข้าว ก็จะไปช่วยเกี่ยวข้าว จนแล้วเสร็จ จึงถูกเรียกว่า นายกชาวนา ก็คงไม่ใช่เรื่อแปลก ที่จะอยู่ในใจของชาวเสนางคนิคมไปอีกนาน...
อำเภอเสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ มีการปกครอง ในรูปแบบเทศบาลตำบลเสนางคนิคม บริหารท้องถิ่น โดยคัดเลือกเลือกตัวแทนประชาชน 1 คน เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเสนางคนิคม เข้ามาบริหารตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน พร้อมสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเสนางคนิคม จำนวน 12 คน ร่วมกันออกเทศบัญญัติ เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้น
อำเภอเสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ มีการปกครอง ในรูปแบบเทศบาลตำบลเสนางคนิคม
บริหารท้องถิ่น โดยคัดเลือกเลือกตัวแทนประชาชน 1 คน
เป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเสนางคนิคม
เข้ามาบริหารตามนโยบายที่ให้ไว้กับประชาชน
พร้อมสมาชิกสภาเทศบาลตำบลเสนางคนิคม จำนวน 12 คน ร่วมกันออกเทศบัญญัติ
เพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้น
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)